admin

โครงการศูนย์อิสลามฯ มะดีนะตุสสลาม ประชุมปรึกษาหารือสามฝ่ายจากไทย ซาอุฯ ตุรกี เพื่อสานต่อโครงการท่ามกลางวิกฤติโควิด-19

ตามที่มูลนิธิมะดีนะตุสสลามได้ดำเริ่มดำเนินการการออกแบบโครงการศูนย์อิสลามฯแล้วนั้น ขณะนี้โครงการการออกแบบศูนย์อิสลามฯได้รับเอกสารอนุญาตการก่อสร้างในวันที่ 9 มิถุนายน 2563 ทางกระทรวงการคลังของรัฐบาลซาอุดิอารเบียซึ่งเป็นผู้สนับสนุนงบประมาณ โครงการได้จัดตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญเพื่อติดตามและดูแลการดำเนินงานของโครงการฯในขั้นตอนต่อไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ได้แก่ 1. Mr.Fahad  Altamrah 2. Mr.Abdullah  Alsuweilem เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก การติดต่อสื่อสารเพื่อการทำงานจะเป็นระบบการประชุมทางไกลผ่านอินเตอร์เนต ทั้งนี้มูลนิธิมะดีนะตุสสลามในการกำกับของมหาวิทยาลัยฟาฏอนีได้ร่วมกับคณะทำงานชุดดังกล่าวจากกระทรวงการคลังของราชอาณาจักรซาอุดิอารเบียและบริษัท Hassa ที่ปรึกษาผู้ออกแบบโครงการจากประเทศตุรกี ร่วมจัดประชุมทางไกล หัวข้อการดำเนินงานโครงการศูนย์อิสลามฯผ่านไปแล้วด้วยดี ในวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2563 โดยคณะผู้บริหารโครงการฯได้ร่วมกันหาทางออกเพื่อสนับสนุนโครงการฯในช่วงวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกปัจจุบัน ในการประชุมครั้งนี้ รศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี  จะปะกียา ประธานในที่ประชุมได้กล่าวขอบคุณสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอาซีซ อาลซูอูดและรัฐบาลซาอุดิอารเบีย และขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่มีความพยายามทุ่มเทให้โครงการฯ สามารถผ่านพ้นบททดสอบในวิกฤติโลกครั้งนี้

PATTANI ASEAN MALL คืบหน้า กำหนดเปิดต้นปี 64

วันที่  10 กรกฎาคม   2563 เครือข่ายสหกรณ์อิสลามแห่งประเทศไทย โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. วรวิทย์ บารู และคณะฯ ได้รับมอบอำนาจจากผู้บริหารเดิมให้เข้าดูแลกิจการห้าง โดยมีภารกิจหลักให้ดำเนินนการก่อสร้างห้างให้แล้วเสร็จและเปิดบริหารจัดการเป็นระยะเวลา 7 ปี ในการดำเนินงานโดยคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ได้เริ่มดำเนินการโดยการจัดทำแผนธุรกิจ ปรับปรุงแบบภายในและภายนอกตลอดจนภูมิทัศน์ให้เหมาะสมและสวยงาม และกำลังดำเนินการก่อสร้างงานสถาปัตย์ งานระบบและงานภูมิทัศน์ให้แล้วเสร็จ สำหรับการเปิดห้างนั้นขณะนี้ กำลังเตรียมความพร้อมในการเปิดศูนย์การค้าที่ครบวงจร ด้วยแบรนสินค้าที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศทั้ง ซุปเปอร์มารเก็ต งานศูนย์อาหาร พื้นที่ให้เช่าและ อื่น ๆ ตลอดการเตรียมในเรื่องของบุคลากร เพื่อให้พร้อมในการเปิดห้างอย่างเต็มรูปแบบทั้งงาน ในต้นเดือนมกราคม 2564 ศูนย์การค้า Pattani Asean Mall เป็นห้างสรรพสินค้ารูปแบบใหม่ที่รองรับกลุ่มลูกค้าในทุกระดับ ภายในศูนย์การค้ามีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของความสะดวกสบายสำหรับผู้พิการ บริเวณพื้นที่ห้างมีการจัดเตรียมพื้นที่จอดรถเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้า

จังหวัดปัตตานีประชุมเพื่อติดตามความคืบหน้าก่อสร้างศูนย์อิสลามฯ

วันที่ 11 มิถุนายน 253 จังหวัดปัตตานี  ประชุมคณะกรรมการติดตามความหน้าของโครงการก่อสร้างศูนย์อิสลามกษัตริย์ซัลมานฯ โดยมีนายปรีชา ชนะกิจกำจร รองผู้ว่าจังหวัดปัตตานี เป็นประธานที่ประชุม และประธานมูลนิธิมะดินะตุสลาม  ณ ห้องประชุมศาลากลาง จังหวัดปัตตานี

การจัดกิจกรรมมัจลิสชูโกร์ Majlis Syukur WAQAF Ramadan 144 H.

วันที่ 10  มิถุนายน 2563 เวลา 9.00 น. บริเวณสถานที่จะก่อสร้างศูนย์อิสลาม กษัตริย์ซัลมานฯ มูลนิธิมะดีนะตุสสลามได้จัดงานมัจลิสซูโกร์ เพื่อขอบคุณผู้ร่วมบริจาคช่วงเดือนรอมฎอน ฮ.ศ.1441 โดย นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี และนายรุสดี เงาะ นายกองค์การบริหารตำบลบานา มาร่วมงาน มีผู้ร่วมงานประมาณ  200 คน

ได้รับใบอนุญาตก่อสร้างอาคารศูนย์อิสลามฯ ในโครงการมะดีนะตุสสลาม (ปัตตานีจายา)

 วันที่  8  มิถุนายน 2563  องค์การบริหารตำบลบานา ได้ออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์อิสลามฯ

การก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลเชคญาซิมฯ กำลังดำเนินการ

ขณะนี้การก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลฯ  กำลังดำเนินการก่อสร้างอาคาร A, B และ C อย่างต่อเนื่อง มีคนงานทั้งหมดประมาณ 80 คน มีความคืบหน้าแล้ว 50 %

มูลนิธิฯ ประชุมร่วมกับกระทรวงศาสนาสมบัติฯ แห่งประเทศกาตาร์

วันที่ 8 กันยายน 2563 มีการประชุมทางไกล (Video conference) ระหว่างมูลนิธิมะดีนะตุสลาม นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา ประธานมูลมูลนิธิมะดีนะตุสลาม และกระทรวงศาสนสมบัติแห่งประเทศกาตาร์ ประกอบด้วย Mr.Muhammad J Almannai หัวหน้าฝ่ายกิจการอิสลาม ของกระทรวงศาสนสมบัติ Eng Hassan Almarzoogi ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพย์ศานสมบัติ และEng Ashraf Khamis วิศวะกรและปริษัท บางกอกแพลนเนอร์ แอนด์ คอนซัลแท้นส์ จำกัด บริษัทที่ปรึกษา นำโดย นายพงษ์ ศิริปะชะนะ ผลการประชุม คือ รับทราบความคืบหน้าในการก่อสร้าง มีความคืบหน้า 45 % ของงานที่จ้าง สรุปงบประมาณก่อสร้างตามสัญญา จำนวน 94,982,352.00 บาท จ่ายแล้ว 37,122,268.43 บาทคงเหลือ 57,860,083.57 บาท โดยงบประมาณที่เหลือเพียงพอกับงานที่เหลือ ความล่าช้า …

มูลนิธิฯ ประชุมร่วมกับกระทรวงศาสนาสมบัติฯ แห่งประเทศกาตาร์ Read More »

มูลนิธิฯประชุมร่วมกับบริษัท เคเทคฯ เพื่อติดตามงานก่อสร้าง รพ.เชคญาซิมฯ

ในวันที่ 21 สิงหาคม 2563 ได้มีการประชุมร่วม 3 ฝ่าย คือมูลนิธิมะดีนะตุสลาม  นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร. อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา ประธานมูลมูลนิธิมะดีนะตุสลาม  บริษัทบางกอกแพลนเนอร์ แอนด์ คอนซัลแท้นส์ จำกัด บริษัทที่ปรึกษา นำโดย นายพงษ์ ศิริปะชะนะ ผู้จัดการโครงการ และบริษัทเคเทค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) โดย นายชัชชน กรรณสูต CEO เพื่อติดตามความคืบหน้าในการก่อสร้าง แก้ปัญหาล้าช้า มติที่ประชุม โดยบริษัทเคเทค ได้ยืนยันที่จะดำเนินการก่อสร้างตามสัญญา พร้อมได้ทำบันทึกข้อตกลงแนบสัญญา โดยจะดำเนินการก่อสร้างตามสัญญาให้แล้วเสร็จ โดยจะให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 พร้อมยินดีรับผิดชอบค่าปรับและจ้างบริษัทที่ปรึกษาตามสัญญา และได้ตกลงว่าหากผู้รับเหมาไม่สามารถดำเนินารตามข้อตกลงนี้ฝ่ายมูลนิธิฯ สามารถยกเลิกสัญญาได้เลย

รับมอบที่ดินวากัฟ จากพี่น้องชาวจะกว๊ะ ยะลา จำนวน 7 ไร่ ให้กับมูลนิธิมะดีนะตุสสลาม

เมื่อวันพุธ ที่ 3 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา รศ.ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา ประธานมูลนิธิมะดีนะตุสสลาม และคณะ เดินทางไปรับมอบที่ดินวากัฟ จากพี่น้องชาว ต.จะกว๊ะ อ.รามัน จ.ยะลา สืบเนื่องจากพี่น้องได้วากัฟที่ดิน จำนวน 7 ไร่ ให้กับมูลนิธิมะดีนะตุสสลาม ซึ่งพี่น้องได้กล่าวในตอนหนึ่งว่า “ที่ดินที่ต้องการจะวากัฟผืนนี้เป็นที่ดินที่รักที่สุด และสมบูรณ์ที่สุด” ทั้งนี้ผู้บริจาคมีความศรัทธาในคำสอนอิสลาม ตามหลักการวากัฟ และได้มอบความไว้วางใจนี้แก่มูลนิธิมะดีนะตุสสลาม จึงถือเป็นเกียรติอย่างยิ่ง สำหรับมูลนิธิฯ ที่จะได้รับใช้ศาสนาของอัลลอฮฺตามวัตถุประสงค์ของผู้มีจิตศรัทธาต่อไป ขออัลลอฮฺทรงตอบรับอามัลความดีที่ไม่สิ้นสุด แด่ครอบครัวผู้วากัฟและทรงโปรดประทานสวงสวรรค์เพื่อเป็นที่พักพิงอันนิรันดร์ด้วยเทอญ อามีน #วากัฟมะดีนะตุสสลาม#วากัฟความดีที่ไม่สิ้นสุด

การระดมเงินวากัฟ

วะกัฟ หมายถึง เศาะดาเกาะฮฺ (การบริจาค) ทรัพย์สินที่ให้ประโยชน์ ในรูปแบบการคงไว้ซึ่งสภาพดั่งเดิมของทรัพย์สินนั้น และใช้ประโยชน์จากผลผลิตหรือรายได้ที่ได้จากทรัพย์สินดังกล่าว เพื่อเป็นการสร้างความใกล้ชิดกับอัลลอฮฺ จากแนวคิดในการที่จะสร้างความมั่นคงของโครงการในระยะยาวนั้น จะต้องมีการจัดตั้งกองทุนวากัฟให้การสนับสนุน ซึ่งได้เริ่มดำเนินการระดมเงินวากัฟพร้อมๆ กับเริ่มต้นโครงการ           ความคืบหน้าในปัจจุบันได้มีการรณรงค์เพิ่มเติม โดยเน้นให้เกิดความเชื่อมั่นกับโครงการเป็นประการสำคัญ ซึ่งได้ให้บุคลากรที่เป็นมืออาชีพโดยเฉพาะในเรื่องการตลาดและสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ           – ให้มีการสื่อสารประชาสัมพันธ์ต่างๆมากขึ้นทั้งระบบออนไลน์และออฟไลน์ เช่น facebook line  call center จดหมาย และการ์ดในโอกาสต่างๆ เป็นต้น           – มีการพัฒนาเปิดเว็บไซต์การบริหารจัดการเงินวากัฟชื่อเว็ป www.madinahalsalam.com/waqaf           – มีการกำหนดตำแหน่งพื้นที่ทำการวากัฟที่ชัดเจน โดยระยะที่ 1 คือ บริเวณอิสลามิกเซนเตอร์ จำนวน 30 ไร่ เป็นจำนวน 30 ล้านบาท ระยะที่ 2 พื้นที่ที่ถนนทางเข้าอิสลามมิกเซนเตอร์ จำนวนประมาณ 10 ไร่ และพื้นที่รอบอิสลามมิกเซนเตอร์ จำนวน 10  ไร่